บิวตี้บล็อก&รีวิว

HIFU คืออะไร วิธีการทำงาน ข้อดี ข้อเสีย ข้อควรระวัง เหมาะกับใคร วิธีการดูแลตัวเองก่อนและหลัง

            เมื่อกาลเวลาผ่านไปก็ทำให้วัยสาวที่เคยสดใส และผิวที่เคยกระชับกลับหย่อนคล้อยไปตามกาลเวลา แต่นวัตกรรมของเลเซอร์รักษาผิวไม่ได้หยุดแค่เพียงการลบฝ้า กระ และจุดด่างดำเท่านั้น หากยังสามารถนำมาใช้ในการดึงผิวหน้าให้กระชับ เต่งตึง รวมทั้งปรับรูปหน้าให้เรียวพร้อมคืนความสดใสให้ใกล้เคียงกับวัยสาวอีกครั้ง นั่นคือการทำ HIFU ซึ่งเป็นอีกหนึ่งขั้นของเทคโนโลยีที่ใช้คลื่นอัลตร้าซาวด์เข้ามาช่วยแก้ปัญหาอีกด้วย

HIFU คืออะไร

HIFU หรือ High Intensity Focus Ultrasound เป็นการใช้คลื่นอัลตร้าซาวด์ความเข้มข้นสูง โดยส่งเข้าไปทำลายเนื้อเยื่อในชั้นผิวหนังระดับลึกถึงชั้น SMAS (Superficial Muscular Aponeurotic System) ทำให้ผิวหนังในชั้น SMAS หดตัว คล้ายกับการเย็บที่เนื้อ เพื่อทำให้เกิดการสร้างคอลลาเจนหรือสร้างเนื้อเยื่อใหม่ ซึ่งเป็นการดึงหน้าที่ส่งผลให้ผิวดูยกกระชับและอ่อนเยาว์มากขึ้น

ทั้งนี้จำนวนครั้งของการทำ HIFU ในแต่ละคนจะไม่เท่ากัน โดยขึ้นอยู่กับปัญหาของรูปหน้าแต่ละคน ซึ่งควรจะต้องทำอย่างต่อเนื่องจึงจะแก้ปัญหาได้และเห็นผลชัดเจน ใช้เวลาการทำประมาณ 30 – 50 นาที อีกทั้งจะเว้นระยะห่างจากการทำครั้งแรก 2 เดือน

HIFU เหมาะกับใครบ้าง

เหมาะสำหรับผู้ที่มีอายุ 25 – 35 ปี ซึ่งมีปัญหาหนังตาตก ผิวหน้าหย่อนคล้อยหรือมีริ้วรอยมาก อีกทั้งยังเหมาะกับผู้ที่ต้องการปรับรูปหน้าให้เรียวสวยโดยไม่ต้องพึ่งการผ่าตัด รวมถึงการยกกระชับใบหน้าหรือยกแนวคิ้วให้ขึ้น และผู้ที่ต้องการลดเลือนริ้วรอย ลดปัญหาผิวหน้าหมองคล้ำ รูขุมขนกว้าง ลดเหนียงใต้คางหรือลดคางสองชั้น

โดยเนื้อเยื่อจะเกิดขึ้นใหม่หรือเห็นผลชัดเจนดังกล่าว และผิวจะมีความเรียบเนียนขึ้นตั้งแต่ 3 เดือนขึ้นไป เมื่อทำแล้วจะคงสภาพอยู่ได้ประมาณ 6 เดือน – 1 ปี ขึ้นไป ซึ่งขึ้นอยู่กับการดูแลผิวหลังการใช้บริการและสภาพผิวของแต่ละคนอีกด้วย

ข้อดีของการทำ HIFU

เป็นวิธีที่เหมาะกับผู้ที่มีริ้วรอยน้อยๆ อีกทั้งราคายังไม่แพงมาก ทำได้บ่อยครั้งและหลังการทำ HIFU ยังสามารถทำการรักษาอย่างอื่นอีกได้ ผู้ที่ทำ HIFU จะรู้สึกอุ่นๆ บนผิวขณะทำ ผิวจะไม่แสบร้อนและไม่ต้องใช้ยาชา เพราะเป็นคลื่นที่มีความถี่สูงถึง 1,000 ครั้งต่อวินาที ทำให้ผู้ที่เข้ารับการบริการไม่รู้สึกเจ็บหลังจากการทำ และสามารถดำเนินกิจวัตรประจำวันได้ตามปกติ เนื่องจากไม่มีบาดแผลและไม่ต้องพักฟื้นนั่นเอง

ข้อเสียของการทำ HIFU

หลังการทำ HIFU อาจมีรอยแดงบ้างหลังการทำ ซึ่งก็พบแค่เพียงบางราย แต่จะหายไปได้เองภายใน 1 – 2 ชั่วโมง

วิธีการดูแลตัวเองก่อนการทำ HIFU

ควรดูแลสุขภาพให้พร้อมสมบูรณ์ด้วยการนอนพักผ่อนให้เพียงพอ งดสูบบุหรี่หรือดื่มแอลกอฮอล์ รับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ เนื่องจากจะช่วยเอื้อต่อการสร้างคอลลาเจนให้กับเซลล์ใหม่เป็นไปได้ด้วยดี

วิธีการดูแลตัวเองหลังการทำ HIFU

ควรใช้ครีมบำรุงผิวเพื่อบำรุงผิวที่เกิดขึ้นใหม่ให้คงอยู่ได้อย่างยาวนาน ทาครีมกันแดดที่มีค่า SPF สูงๆ แล้วหลีกเลี่ยงแสงแดด หากมีอาการเมื่อยหรือตึงผิวก็สามารถรับประทานยาแก้ปวดได้ นอกจากนี้ไม่ควรนวดหรือถูใบหน้าแรงๆ รวมทั้งไม่สูบบุหรี่หรือดื่มแอลกอฮอล์ เพราะเป็นการทำลายการสร้างคอลลาเจนที่ชั้นใต้ผิวหนัง

ข้อควรระวังในการทำ HIFU

ถึงแม้ว่าการทำ HIFU จะเป็นวิธีที่ให้การยอมรับว่ามีความปลอดภัยสูงแล้วก็ตาม แต่ก็ยังควรต้องปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนัง เพื่อให้ได้ความรู้ความเข้าใจอย่างถูกต้อง ตลอดจนต้องเลือกสถานที่ที่ให้บริการได้มาตรฐานเพียงพอ จึงจะได้ผลลัพธ์อย่างน่าพึงพอใจสูงสุด

ราคาค่าบริการของ HIFU

ขึ้นอยู่กับสภาพปัญหาของหน้าและจำนวนช็อตของการยิงเลเซอร์ ซึ่งอยู่ในดุลพินิจของแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญด้วยว่าจะต้องรักษาจำนวนกี่ครั้ง โดยราคาเริ่มต้นที่ประมาณ 999 - 5,499 บาท

HIFU ยังคงเป็นการดูแลและยกกระชับผิวหน้าที่เห็นผลอย่างชัดเจน บางคนแม้ทำเพียงครั้งแรกก็ให้ความรู้สึกถึงผลลัพธ์ของก่อนทำและหลังทำได้ดี จึงเป็นอีกทางเลือกที่น่าลองของผู้ที่รักสวยรักงาม และผู้ที่ต้องการดูแลผิวตั้งแต่อายุไม่มากนักในราคาที่พอจับต้องได้นั่นเอง